สเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) คำ ๆ นี้ มีมาซักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนที่มีคำถามค้างคาใจอยู่ ด้วยราคาการทำที่ค่อนข้างแพง ทำให้คนที่จะทำก็ต้องสร้างความมั่นใจให้ตัวเองก่อนว่าดีแค่ไหน ซึ่งเราก็ได้รวบรวมคำถามยอดฮิตมาตอบท่าน
เซลล์ต้นกำเนิด หรือ เซลล์ต้นตอ ( อังกฤษ : stem cell ) MSCs เป็นเซลล์ที่ไม่จำเพาะซึ่งสามารถเจริญ ( differentiate ) ไปเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะ และสามารถแบ่งตัวแบบไมโทซิส เพื่อสร้างเซลล์ต้นกำเนิดเพิ่มได้ เซลล์ต้นกำเนิดพบในสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แบ่งเซลล์ต้นกำเนิดออกกว้าง ๆ ได้เป็นสองชนิด คือ เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน ( embryonic stem cell ) ซึ่งแยกจากมวลเซลล์ชั้นในของตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสท์ ( blastocyst ) และ เซลล์ต้นกำเนิดเต็มวัย ( adult stem cell ) ซึ่งพบในเนื้อเยื่อหลายชนิด ในสิ่งมีชีวิตเต็มวัย เซลล์ต้นกำเนิด และโปรเจนิเตอร์เซลล์ (progenitor cell) ทำหน้าที่เป็นระบบซ่อมแซมของร่างกาย โดยทดแทนเนื้อเยื่อเต็มวัย ในตัวอ่อนที่กำลังเจริญ เซลล์ต้นกำเนิดสามารถเจริญไปเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะได้ทุกชนิด ทั้งเอ็กโทเดิร์ม เอ็นโดเดิร์ม และเมโซเดิร์ม ทว่า ยังคงการหมุนเวียนปกติของอวัยวะที่สร้างใหม่ได้ (normal turnover of regenerative organ) เช่น เลือด ผิวหนัง และเนื้อเยื่อลำไส้ได้อีกด้วย
ช่วยเรื่องผิวพรรณ ความงาม
จากกระแสข่าวหลาย ๆ แหล่งนำเสนอว่า มีดารานักแสดงพากันไปฉีดสเต็มเซลล์ เพื่อหวังผลด้านความสวยความงาม ซึ่งมีราคาตั้งแต่ราคา 6 – 7 หลักเลยทีเดียว และถึงแม้ราคาสูงขนาดนี้ ก็ยังมีผู้สนใจจำนวนมาก และแถมต้องบินไปฉีดกันถึงเยอรมัน
แต่การใช้สเต็มเซลล์ในความเข้าใจที่ผิดนั้น มีอยู่มากมาย อย่างการฉีดสเต็มเซลล์ ที่เป็นเซลล์สดของสัตว์เพื่อใช้ในด้านความงามนั้น หัวหน้าศูนย์วิจัยเซลล์ต้นกำเนิด และเซลล์บำบัด เผยว่า นอกจากจะมีวิธีการที่ยุ่งยาก ต้อง match cell ต้องตรวจร่างกาย ต้องตรวจเลือด และจริง ๆ แล้วการฉีดเซลล์ของสัตว์เข้ามาในร่างกายนั้น อาจไม่มีประโยชน์ใด ๆ เพราะปัจจุบันก็ยังไม่มีสถาบันใด ๆ ที่กล้าออกมายอมรับเรื่องนี้ อย่าง 100% ทั้งที่ทั่วโลกก็ฉีดกันทุกวัน
ในปัจจุบันนี้ยังมีข้อจำกัด และความยุ่งยากหลาย ๆ อย่าง ดังที่กล่าวข้างต้น ซึ่งก็มีบริษัทยุโรป หลาย ๆ แห่ง ที่สกัดสเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) ออกมาแบบพร้อมใช้ คือ สามารถฉีดใช้ได้เลย โดยไม่ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่กำหนดด้วย ไม่ต้องครวจเลือด ไม่ต้อง match cell ซึ่งทำให้การฉีดสเต็มเซลล์ยิ่งนิยมกันไปใหญ่ เพราะก็ไม่ต้องบินไปฉีด ไกลถึงต่างประเทศ และแถมราคายังลดลงอีกเยอะ จาก 7 หลักก็เหลือเพียง 6 หลัก แถมเป็น 6 หลักต้น ๆ ด้วยครับ
การใช้สเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) นั้น จากการรวบรวมความเห็นก็มีความเห็นว่าส่วนที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นนั้น ซึ่งอาจมีการรวมการใช้ทั้งด้านความงาม และด้านอื่น ๆ เข้าไปร่วมด้วย และสารเหล่านั้นน่าจะทำงานผสมผสานกับสเต็มเซลล์ (ที่อาจไม่ได้มากมายอะไร) แล้วช่วยให้ผิวพรรณดูดีขึ้น จึงเกิดความนิยมขึ้นในปัจจุบัน
สเต็มเซลล์แบบสกัด สามารถช่วย คือ
– ช่วยซ่อมแซมเซลล์ ที่สะท้อนสภาพ ให้กลับมาสมบูรณ์ แข็งแรง
– ต่อต้านความชรา ให้ผิวหนังดูอ่อนวัย
– ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
– ปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
– ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
– การนอนหลับเต็มอิ่ม หลับลึก หลับนานขึ้น
อายุเท่าไร สมควรจะฉีดสเต็มเซลล์
คำถามนี้ ตอบง่าย ๆ คือ ไม่เกี่ยวกับอายุครับ ร่างกายเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุ 20 ปี จริง ๆ แล้วอายุที่เรานับ ๆ กันตามปี ก็ไม่ตรงกับอายุร่างกาย หรืออายุเซลล์ ตอนนี้เรามีเครื่องสแกนด้วยระบบไฟฟ้า ระบบแม่เหล็ก รวมถึงการตรวจเลือด สามารถบอกอายุคร่าว ๆ ของเซลล์อวัยวะได้ และบอกพยากรณ์คร่าวถึงโรคอนาคตได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นอยู่ที่ความพอใจมากกว่า แต่ของพวกนี้ บำรุงตั้งแต่มันเสื่อมน้อย ๆ ก็ย่อมดีกว่าครับ
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นสเต็มเซลล์ของจริง หรือ ของปลอม
ต่อให้เป็นของปลอมคุณก็ไม่รู้ครับ เพราะเหมือนถามว่า Botox ของจริง หรือปลอม ของแบบนี้มันตอบยากมากๆ ครับ ขนาดเอามาเทียบกันต่อหน้า ยังแยกลำบากเลย แนะนำว่าให้เลือกสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ เปิดมานาน มีแพทย์ประจำ อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรขึ้น เค้าก็น่าจะรับผิดชอบ
สเต็มเซลล์แพงไหม
สเต็มเซลล์ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ แต่ด้วยราคา และอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงไม่มีจำเป็นในการฉีดเท่าไร แต่ถ้าอยากให้ผิวพรรณดี แข็งแรง แล้วมีกำลังก็ไม่มีปัญหา แต่อย่างที่บอกว่าถ้าอยากให้ผิวหน้าเด้ง กรณีนี้แนะนำให้ดูแลเฉพาะเจาะจงไปที่ผิวหน้าเลยจะคุ้มกว่าครับ เพราะสเต็มเซลล์จะไม่ได้ทำให้ผิวหน้าคุณดีขึ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ แต่มันจะทำงานรวมๆ ทั้งตัวครับ
สเต็มเซลล์อาจจะไม่ได้มีราคาถูกมากนัก แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณที่เราใช้ด้วย ถ้าผิวเสื่อมมากก็ต้องใช้ปริมาณมาก ราคาก็อาจจะสูงขึ้นตาม ถ้าไม่เสื่อมมากฉีดเต็มเล็กน้อยก็ดีขึ้น กรณีก็ไม่แพง แต่ถ้าเสื่อมมากจริง ๆ ต้องเน้นปริมาณเยอะ ๆ อันนี้ก็ต้องเตรียมเป็นหลักแสนไว้เลย
ฉีดแล้วผลจะอยู่ได้นานแค่ไหน
ก็ต้องมีวันหมดไปตามการใช้ชีวิตของเรา ร่างกายของเรา กิจวัตร หรือกิจกรรมต่างๆ เช่นชอบกีฬา ชอบปาร์ตี้ ดื่มเป็นประจำ หรือดูแลสุขภาพสม่ำเสมออย่างไรมากกว่ากันครับ
สเต็มเซลล์มีอันตรายไหม
สเต็มเซลล์ก็เหมือนยาทุกประเภท มีดีย่อมมีร้าย สำหรับคนที่ใช้ก็อาจจะมีอาการแพ้ได้ และถ้าบังเอิญคุณแพ้สารประกอบสักตัวในนั้น ก็อาจเป็นอันตรายกับตัวคุณได้ ร่างกายมีสิทธิ์จะไม่รับ ต้องย้ำอีกว่าสเต็มเซลล์ไม่ใช่ยาวิเศษ ไม่ใช่ว่าทุกคนฉีดแล้วจะดี หรือถ้าคนอื่นฉีดแล้วดี ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะดีเหมือนคนอื่น ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทีมข่าวผู้จัดการ LIVE